การเรียนที่ดีที่สุด
คือ การเรียนในห้องเรียน ไม่ใช่การเรียนกะติวเตอร์ เพราะการเรียนในห้อง ครู จะสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป นักเรียนที่ตั้งใจเรียนจะสามารถเข้าใจบทเรียนได้เป็นอย่างดี ครูจะให้การบ้านจากง่ายไปยาก จากนั้น นักเรียนกลับมาทำการบ้านทบทวนสิ่งที่เรียนไป ซึ่งปัจจุบันนักเรียนชอบลอกเพื่อน การทำการบ้านให้เราได้ฝึกข้อ 1-4 หากทำการบ้านนั้นไม่ได้ ต้องหาตำราอ่านเพิ่ม คำว่านักเรียน คือ ต้องรู้จักวิธีเรียนให้รู้ นักเรียนส่วนใหญ่มักเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน พอสอบเสร็จ ก็จะทำเป็นสมองปลอดโปร่ง คือ ลืมทุกสิ่งอย่าง ซึ่งถ้าไปดูตำราเรียนล่ะก็ บทเรียน ป.1-3 จะมีเนื้อหาบทเรียนซ้ำกับ ป.4-6 ซึ่งประถมเค้าพยายามสร้างพื้นฐานก่อนครับ
ส่วน ม.1-3 จะมีเนื้อหาบางส่วนที่เหมือนประถม แต่มีเนื้อหาต่อยอดเพิ่มด้วย ซึ่งถ้านักเรียนทำลืม จะเกิดปัญหาแน่นอน ม.4-6 ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาต่อยอดไปเลย ไม่มีการทวน ม.1-3 ดังนั้น ที่ติวเตอร์ทั้งหลาย จะใช้ช่องทางนี้ในการหาเงินส่วนตัวแล้วบอกเสมอให้เด็กทวนเอง แล้วเด็กต้องอ่านหนังสือให้เป็น ไม่ใช่ให้คนอื่นอ่านให้ มันไม่เข้าหัวได้นานอย่างแน่นอน
อีกอย่างถ้ามีการทบทวนบ่อยๆ เด็กจะเริ่มเรียนรู้การทำ short note เป็นของตัวเอง
ไม่ใช่การย่อหนังสือนะ แต่เป็นการเขียนหนังสือของตัวเองขึ้นใหม่ ด้วยความเข้าใจของตนเอง สุดท้ายถ้าทำได้ขนาดนี้ ไม่ว่าเจอโจทย์ยากเพียงใด ไม่น่าเกินความสามารถของเด็กแน่นอน โดยเด็กจะต้องมีความคิดว่า โจทย์ที่ครูออกข้อสอบ ไม่ได้ยากเกินความสามารถ หรือเกินเนื้อหา แต่ขอให้มีความพยายาม เพื่อทำข้อสอบให้สำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น